km

km
พัฒนาชุมชนสมุทรปราการ ดำเนินงาน KM

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ถอดบทเรียนเเละการจัดการความรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นเเบบ



ระยะนี้กรมการพัฒนาชุมชนมีเเนวทางเเละข้อสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นเเบบ โดยมีกรอบการดำเนินการสนับสนุนให้ทุกจังหวัดดำเนินการ เเละท้ายสุดให้จัดการความรู้เเละถอดบทเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง นี่คือประเด็นที่ผมจะชวนคุยวันนี้ ผมเองไม่ได้รับผิดชอบกิจกรรมนี้เพราะเป็น หัวหน้ากลุ่มสารสนเทศฯรับผิดชอบการสนับสนุนด้านอื่นๆเสียมากกว่า เเต่ที่ต้องชวนคุยเพราะมีพรรคพวกที่เคยอบรมพัฒนาการอำเภอด้วยกัน ตั้งเป็นโจทย์ให้ช่วยคิดหน่อยว่าจะจัดการความรู้ หรือจะถอดบทเรียนอย่างไรดี เอาละครับงานเข้าขึ้นมาทันที


จากประสบการณ์ที่พอมีอยู่บ้างเรื่องการจัดการความรู้ เเละเป็นความเข้าใจส่วนตัว ขอย้ำว่าเป็นความเข้าใจส่วนตัวเท่านั้น ใครจะนำไปขบคิดต่อก็ไม่เสียหายครับ เมื่อได้รับโจทย์มาว่าจะจัดการความรู้หรือจะถอดบทเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจอย่างไรดีนั้นก่อนอื่นผมว่าเราต้องศึกษาเเละตั้งคำถามเหล่านี้ครับ


1.การจัดการความรู้ คืออะไร?


2.การถอดบทเรียนคืออะไร?


3.ข้อ 1 เเละข้อ 2 ต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร เพราะที่ผ่านมาบางปี กรมฯให้จัดการความรู้ บางกิจกรรมให้ถอดบทเรียน อ้าวเเล้วต่างกันมั้ย....?


4.หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่จะไปจัดการความรู้หรือไปถอดบทเรียน คืออะไร? ขอบเขตเเค่ไหน?ใครให้ข้อมูลได้บ้าง?


5.จะไปจัดการหรือถอดความรู้อะไรของเขา? ถอดความรู้ที่ว่าเพื่ออะไร?


6.จะไปถอดความรู้กับใคร? ใครเกี่ยวข้องที่จะสามารถให้ข้อมูลได้บ้าง? มีกี่คน ?


7.จะใช้เครื่องมืออะไรไปจัดการความรู้หรือถอดความรู้กับเขา?



8.จะวางแผนเตรียมการอย่างไรในการถอดบทเรียนที่ว่าน?


9. ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง?


10.จะจดบันทึกประเด็น ข้อความ ภาพและเสียงอย่างไร?


11.ได้ข้อ 10 มาแล้วทำอย่างไรต่อ จะมีวิธีการเขียนรายงานอย่างไร?(รูปแบบ)


12. นำไปตอบโจทย์การศึกษาได้หรือไม่และติดตามประเมินผลงานอย่างไร


นี่คือคำถามตั้งต้นที่ชวนทุกท่านช่วยกันตอบก่อนที่จะลงไปปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ จากประสบการณ์(ของผมคนเดียว) ผมขอให้ความชัดเจนในแนวทางดังนี้ครับ การถอดบทเรียนเป็นเครื่องมือหนึ่งในเรื่องการจัดการความรู้ เพราะเป็นการแกะ แคะ เอาความรู้(เทคนิคการทำงาน/วิธีปฎิบัติงานที่ดี/กลเม็ดเคล็ดลับในการทำงาน)ของคนทำงานและประสบผลสำเร็จมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ความรู้ที่ว่าก็คือความรู้ที่ตกผลึกฝังแน่นในตัวคน ที่นักวิชาการเรียกว่า ความรู้ฝังลึก หรือความรู้ซ่อนเร้น(TACIT KNOWLEDGE) ทำอย่างไรเราจะนำความรู้เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ได้ คำว่าบทเรียนมีความหมายใกล้เคียงหรือแนบแน่นกับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ บทเรียนที่เกิดขึ้นมีทั้งที่เป็นบทเรียนเชิงบวกที่เป็น HOW TO ให้คนที่จะทำงานแบบเดียวกันได้เรียนรู้แล้วนำไปสู่การประยุกต์ใช้ กับบทเรียนที่เป็นจุดต้องหลีกเลี่ยงมิให้เกิดขึ้นอีก จะเป็นข้อพึงระวังและข้อควรคำนึงนั่นเอง ในการจัดการความรู้หรือถอดบทเรียนหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักปฏิบัติดังนี้ครับ


1.ท่านต้องกำหนดให้ชัดก่อนว่าท่านอยากเรียนรู้หรือต้องการหาบทเรียนอะไร? ในหมู่บ้านฯ (นั่นคือการตั้งคำถามในการถอดบทเรียนและกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน)


2.สิ่งที่ท่านอยากรู้ตามข้อ 1 ใครมีบทเรียนดีๆเป็นแบบอย่างได้บ้าง? นั่นคือหาแหล่งข้อมูลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะเป็นเจ้าของความรู้ตัวจริงนั่นเอง


3.เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์ชัด รู้ตัว KEY (คนรู้เรื่องนั้นจริงๆ=เจ้าของความรู้) แล้ว สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ แล้วจะใช้เครื่องมืออะไรในการ สกัดความรู้ หรือถอดความรู้ที่ว่า ได้เหมาะสมกับแหล่งความรู้ที่กำหนด (หาวิธีการ)


4.ประสานการจัดเวทีถอดบทเรียน โดยนักจัดการความรู้ต้องตั้งประเด็นคำถามให้ชัดไว้แต่ต้น เช่น สถานการณ์อะไรที่ทำให้ต้องดำเนินกิจกรรม? กิจกรรมที่ดำเนินการมีเป้าหมายอย่างไร? มีการวางแผนเช่นไร? สิ่งที่เกิดขึ้นจริงแตกต่างจากเป้าหมายหรือสิ่งที่คาดหวังไว้หรือไม่อย่างไร ทำไมเป็นเช่นนั้น? มีปัญหา อุปสรรคหรือไม่แก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไร? ครั้งต่อไปเราควรจะปรับปรุงอย่างไรที่จะทำให้งานดีขึ้นกว่าเดิม?


5.ในการจัดการความรู้หรือถอดบทเรียนมีลักษณะให้ต้องคำนึงอีกข้อหนึ่ง คือ จำนวนกลุ่มเป้าหมายที่เราจะถอดความรู้ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะดังนี้


5.1 การจัดการความรู้หรือถอดบทเรียนเป็นรายบุคคล


5.2 การจัดการความรู้หรือถอดบทเรียนรายกลุ่มองค์กร/เครือข่าย/ชุมชน


5.3 การจัดการความรู้หรือถอดบทเรียนรายโครงการ/กิจกรรม(ย่อย)


6. การเขียนรายงานการจัดการความรู้หรือถอดบทเรียน มักไม่คำนึงถึงระเบียบวิธีเช่นเดียวกับงานวิจัย มักเริ่มจาก


6.1 ชื่อเรื่อง


6.2 ความเป็นมาและวัตถุประสงค์


6.3 กระบวนการ/ขั้นตอนในการดำเนินงาน


6.4 ผลการดำเนินงาน(สิ่งที่เกิดขึ้นจริง)ประกอบด้วย สถานการณ์/เงื่อนไขที่เกิดขึ้นและผลที่ตามมา


6.5 บทเรียนหรือวิธีปฏิบัติที่ดีที่เกิดขึ้นในการดำเนินการ


6.6 การวิเคราะห์หาปัจจัยแห่งความสำเร็จ


6.7 ข้อเสนอเพื่อการพัฒนางานในครั้งต่อๆไป


ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ที่ไม่เน้นข้อมูลอ้างอิง แต่ผมเขียนเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เท่านั้น หลายๆท่านอาจทำได้ดีกว่านี้มากมาย เสมือนเป็นเวทีเรียนรู้กันนะครับ แต่ข้อควรคำนึงสำคัญในการนำไปสู่การถอดบทเรียน จังหวัดต้องสร้างความเข้าใจเรื่องการจัดการความรู้ให้ชัดเจนแต่ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ก่อน จึงจะสมามารถขับเคลื่อนได้สะดวกโยธินครับ.....





1 ความคิดเห็น:

  1. Do you realize there's a 12 word phrase you can tell your man... that will induce intense feelings of love and impulsive appeal for you deep within his heart?

    Because hidden in these 12 words is a "secret signal" that fuels a man's impulse to love, worship and protect you with his entire heart...

    12 Words That Trigger A Man's Desire Instinct

    This impulse is so hardwired into a man's genetics that it will make him try better than ever before to do his best at looking after your relationship.

    As a matter of fact, triggering this powerful impulse is so binding to getting the best ever relationship with your man that the moment you send your man a "Secret Signal"...

    ...You'll instantly notice him open his soul and heart for you in a way he's never experienced before and he'll identify you as the only woman in the universe who has ever truly interested him.

    ตอบลบ